เป็นภาพน่ารัก ๆ ที่เป็นกระแสเล็ก ๆ ในโลกออนไลน์ เมื่อมีการเปิดเผยภาพของนักศึกษาหนุ่มหน้ามนคนหนึ่ง ขณะคาดกระเป๋าสะพายนั่งขายของอยู่ในตลาด พร้อมมีข้อมูลบอกว่าเขาคนนี้มาช่วยพ่อแม่ขายผักหลังเลิกเรียนทุกวัน โพสต์โดย เฟซบุ๊ก มัทนา อ่ำมีลาภ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา โดยมีข้อความระบุว่า...
"คุณคิดว่าน้องนักศึกษาคนนี้เป็นอย่างไร.!!!
ไม่ต้องบอกก็รู้ เป็นคนดีแน่นอน ช่วยพ่อแม่หาเงินเรียนหนังสือ สิ่งดีดีที่น่าชื่นชม น้องเขาขายผักหลังเลิกเรียน ใครอยู่ใกล้ช่วยไปอุดหนุนกันด้วยนะ ตลาดราชพัสดุ รายละเอียดรู้มาแค่นี้ค่ะ ขอให้น้องเจริญ ๆ นะ จบแล้วน้องต้องได้งานทำที่ดีแน่นอน ฝากแชร์ ส่งเสริมน้องด้วยค่ะ"
และเมื่อภาพเพียง 2 ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกมาไป ก็มีคนอยากทราบพิกัดของตลาดดังกล่าว เนื่องจากอยากไปอุดหนุนเด็กกตัญญูคนนี้ ซึ่งทาง คุณ Pepper Mint ก็ได้เข้ามาให้ข้อมูลว่า... "ขายอยู่ที่ตลาดราชพัสดุ จ.น่านค่ะ พี่เค้าเลิกเรียนเเล้วมาทุกวันเลยค่ะ ตัวจริงน่ารักมากค่ะ หล่อด้วยค่ะ พี่เขาขยันมากค่ะวันเสาร์-อาทิตย์ก็มาค่ะมาทุกวัน"
นอกจากนี้บรรดาชาวเน็ตที่ได้เห็นต่างก็เข้ามาชื่นชมไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็น....
- พี่โคตรไอดอลผมเลยยย ทำดีไม่ต้องอายใคร
- ขอให้รวย ๆ ๆ ค่ะ
- สุดยอดเลยค่ะ ขอให้ประสบความสำเร็จทุกอย่างในชีวิตนะคะ
- เป็นลูกผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ.หล่อ.ดี.กตัญญู.ขายที่ไหนจะไปชวยอุดหนุน.ขอให้เจริญ ๆ ๆ นะลูก
- คนดี ๆ ช่วยกันสนับสนุนให้เขาภูมิใจ ช่วยกันแชร์ ใครเป็นเจ้าของกิจการ อยากได้คนดีไปทำงาน รีบติดต่อ คนอย่างนี้หายากมาก
- อาชีพสุจริตไม่ต้องไปอายใคร ยิ่งช่วยบุพการีแบบนี้เจริญทุกรายค่ะ
- เด็กบางคนอายที่ต้องมานั่งขายของ แต่น้องคนนี้น่ารักมากเลยช่วยผ่อนแรงคุณพ่อคุณแม่ มีจิตสำนึกที่ดีตั้งแต่เด็กฉะนั้นเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่มีการงานทำ กระผมมั่นใจว่าจะต้องเป็นบุคลากรคุณภาพครับ และคงเป็นที่พึ่งในยามแก่เฒ่าของคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างดีครับผม
นักศึกษาหนุ่มไม่อายทำกิน ช่วยพ่อแม่ขายผักหลังเลิกเรียน ชาวเน็ตชื่นชม ขอให้เจริญ ๆ
By Unknown
คณะกรรมการเร่งตรวจสอบทรัพย์สินหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่ ภายใน 1 เดือน ก่อนชี้แจงสาธารณชนทราบ ปัดข่าวลือกรณีหลวงพ่อคูณเป็นหนี้กว่า 95 ล้านบาท
ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติให้รักษาการคณะกรรมการวัด รวบรวมบัญชีทรัพย์สินทั้งหมด ทั้งอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ ภายในระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 24 มิถุนายนนี้ ก่อนจะนำเอาเอกสารทั้งหมดเข้ายื่นต่อคณะกรรมการการตรวจสอบฯ ที่เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาตั้งขึ้น เพื่อชี้แจงให้สาธารณชนทราบต่อไป โดยกำหนดให้ นายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครราชสีมา หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบฯ เป็นผู้ให้ข่าวแก่สื่อมวลชนแต่เพียงผู้เดียว เพื่อเลี่ยงปัญหาความคลาดเคลื่อนของข้อมูล
ด้านนายเกรียงไกร จารุทวี รักษาการรองประธานคณะกรรมการวัดบ้านไร่ และเป็นผู้ดูแลวิหารเทพวิทยาคม เปิดเผยว่า หลังมีกระแสข่าวออกไปว่าหลวงพ่อคูณมีหนี้สินที่เกิดจากการสร้างวิหารเทพวิทยาคม 95 ล้านบาท ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เงิน 95 ล้านบาทนั้น เป็นเงินส่วนตัวของตนที่ใช้ทดลองจ่ายเพื่อสร้างวิหารเทพวิทยาคมไปก่อน
สำหรับเงินจำนวนนี้ไม่ถือว่าเป็นหนี้สินของทางวัดบ้านไร่ หรือหนี้สินของหลวงพ่อคูณ แต่อย่างใด แต่คงจะต้องหารือกับทางคณะกรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่อีกครั้ง ว่าจะนำมาจ่ายคืนในรูปแบบใด
ที่มา http://www.kapook.com/
โต้ข่าวลือ หลวงพ่อคูณ เป็นหนี้ 95 ล้าน-เร่งสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่
By Unknown
ล่าสุด พ.ต.ท.วีระ นุชศิลป์ สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นนายตำรวจที่เปิดหมวกรับบริจาคคนดังกล่าว เปิดเผยว่า พื้นเพตนเป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี และได้ย้ายมาประจำการที่ สภ. กระทุ่มแบน ได้เกือบ 3 เดือนแล้ว แต่เดิมเป็นคนที่ชอบเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก โดยเริ่มมาแสดงดนตรีเปิดหมวกรับบริจาคให้มูลนิธิต่างๆ ได้ 3 ปี ปัจจุบันนอกจากประกอบอาชีพตำรวจแล้ว พ.ต.ท.วีระ ยังช่วยร้องเพลงในร้านอาหารของคนรู้จัก และจะหาโอกาสไปแสดงดนตรีตามงานการกุศลต่างๆ ส่วนการไปเล่นดนตรีและร้องเพลงรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยเนปาล ที่เห็นในภาพนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา บริเวณตลาดนัดกระทุ่มแบน โดยสาเหตุเกิดจากการที่ตนดูข่าวแล้วรู้สึกเห็นใจชาวเนปาล เนื่องจากภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติเป็นสิ่งที่ใครก็ไม่อยากให้มันเกิด เพราะฉะนั้นอะไรที่ตนสามารถช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้ ตนก็ทำ และที่สำคัญการทำแบบนี้มันทำให้ตนมีความสุข ผู้ที่บริจาคเงินช่วยเหลือก็มีความสุข ทั้งนี้ตนได้รับเงินบริจาคจากการแสดงดนตรีเปิดหมวกเป็นจำนวนเงิน 9,000 บาท และตนจะสมทบทุนอีก 1,000 รวมทั้งสิ้น 10,000 บาท เพื่อส่งมอบให้ทางจังหวัดสมุทรสงคราม รวบรวมเงินบริจาค พร้อมสิ่งของเครื่องใช้ส่งผ่านรัฐบาลต่อไป..
ชาวเน็ตแห่ชื่นชม นายตำรวจเล่นกีตาร์เปิดหมวกตลาดนัดกระทุ่มแบน รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เนปาล เจ้าตัวเผยชอบดนตรีมาแต่เด็ก และมักหาโอกาสไปแสดงดนตรีตามงานกุศลอยู่เรื่อย
By Unknown
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อสงสัยที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย สำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับ “ยาคูลท์” นมเปรี้ยวยอดนิยมที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน แต่วันนี้ข้อสงสัยนี้มันจะหมดไปแล้วล่ะ
เรียบเรียงโดย Catdumb
“ยาคูลท์” เจ้านมเปรี้ยวที่อยู่คู่มาช้านานกับคนไทย แต่ทำไม๊ ทำไม…มันไม่มีขายตามห้างและมีเพียงแค่ขนาดเดียวเท่านั้นหนอออ…
ยาคูลท์ ที่ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์แลคโตบาซิลัสกว่า 8 พันล้านตัว ถูกคิดค้นโดย ศาสตราจารย์ชิโระตะ มิโนะรุ จากมหาวิทยาลัยโตเกียว มีประโยชน์ช่วยในการย่อยอาหารและทำให้ลำไส้ทำงานเป็นปกติ…
โดยสาเหตุที่ยาคูลท์ มีเพียงแค่ขนาด 80cc ขนาดเดียวนั่นก็เพราะว่า…เพื่อไม่ให้เราได้รับเชื้อจุลินทรีย์แลตโตบาซิลัสมากเกินความจำเป็น เพราะถ้าได้รับมากเกินไปก็จะทำให้เราท้องเสียได้ ขนาดนี้จึงเหมาะกับร่างกายที่สุด
และทำไมยาคูลท์ถึงไม่มีวางขายตามร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าล่ะ? เพราะว่ากระบวนการผลิตนั้นไม่เพียงพอต่อลูกค้า และเพื่อเป็นการรักษานโยบายในการเลี้ยงพนักงานไม่ให้สาวยาคูลท์ต้องตกงานอีกด้วย
ทีนี้คงหมดข้อสงสัยกันแล้วน้า ว่าทำไมยาคูลท์มีขายเพียงขนาดเดียวนั่นก็เพราะใส่ใจผู้บริโภคนั่นเอง แถมที่ไม่มีขายตามห้างก็เพราะใส่ในด้านมนุษยธรรมด้วยนะนี่ น่านับถือ
และนี่คือเหตุผลอันสูงส่ง…ว่าทำไมยาคูลท์ถึงมีเพียงขนาดเดียว และไม่มีขายตามห้าง!!!
By Unknown
ชาวประมงรายนี้ ออกไปตกปลา แต่ดันได้ของแถมตัวนี้ ติดกลับมาด้วย!
Ben Stack ชาวประมงวัย 40 ปี คงต้องจดจำเหตุการณ์ครั้งนี้ไปตลอดชีวิต หลังออกไปหาปลาบริเวณแม่น้ำ Far North Queensland ประเทศออสเตรเลีย แต่ดันได้จระเข้น้ำเค็มเป็นของแถมระหว่างดึงเบ็ดขึ้นจากน้ำ
Ben เล่าประสบการณ์ช็อกที่เจอมากับตัวว่า “ระหว่างที่ผมกำลังดึงปลาแซลแมนที่ติดเบ็ดขึ้นจากคลอง Cape York ผมก็สัมผัสได้ถึงน้ำหนักบางอย่าง เลยตัดสินใจชะโงกหน้าออกไปมองว่ามีอะไรติดมาพร้อมกับปลาด้วย
แล้วผมก็ต้องขนลุกซู่เมื่อพบว่าจระเข้น้ำเค็มความยาวร่วม 60 ซม. กำลังจ้องตาผมอยู่ ผมจึงรีบถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้วทิ้งคันเบ็ดลงทันที ก่อนโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นลงเฟซบุ๊กเตือนภัยเพื่อนชาวประมงคนอื่น”
ชาวประมงรายนี้ ออกไปตกปลา แต่ดันได้ของแถมตัวนี้ ติดกลับมาด้วย!
By Unknown
เว็บไซต์มิร์เรอร์ของอังกฤษรายงานถึงกระแสสุดช็อกโลกออนไลน์ เมื่อสาวสวยวัย 25 ปี จากประเทศโรมาเนียคนหนึ่ง ชื่ออเดลิน่า อัลบู โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า เธอเสนอเงินก้อนจำนวน 350 ยูโร (ราว 12,300 บาท) ให้แก่ชายคนใดก็ได้ ขอแค่มามีเพศสัมพันธ์ด้วยกัน เพื่อให้เธอตั้งครรภ์และมีลูกได้เท่านั้นพอ แต่เธอไม่ต้องการคบใครเป็นแฟน เพราะเห็นว่าผู้ชายไม่ดีพอ
ข้อความของเธอมีใจความโดยภาพรวมว่า… “ฉันไม่ได้สนหรอกว่าจะเจอใคร สนแต่ว่าใครจะมาทำให้ฉันมีลูกได้ ฉันไม่อยากจะมีความสัมพันธ์แบบที่มันไร้จุดหมาย เพราะงั้นเอาไปเลย หมื่นกว่าบาท คุณก็ได้ขึ้นสวรรค์แถมได้เงิน ส่วนฉันก็ได้ลูกสมใจ พวกผู้ชายก็เหมือนกันหมดแหละ เห็นแก่ตัว ไม่เคยคิดถึงคนอื่น”
สุดช็อก! สาวสวยโพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศจ้างผู้ชายมาทำตัวเองตั้งท้อง
By Unknown
กรมการขนส่งทางบก สั่งเพิกถอนใบอนุญาตแท็กซี่โรคจิตแล้ว หลังทำพฤติกรรมลามกอนาจารช่วยตัวเองบนรถต่อหน้าผู้โดยสาร
สืบเนื่องจากกรณีที่มีการแชร์ภาพคนขับแท็กซี่รายหนึ่งได้ทำพฤติกรรมลามกอนาจาร ด้วยการช่วยตัวเองกลางวันแสก ๆ โดยหญิงสาวผู้โดยสารคนดังกล่าวได้ระบุว่าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ เพราะแท็กซี่ช่วยตัวเองไม่ได้ล่วงเกินแต่อย่างใด
ล่าสุด วันนี้ (21 มีนาคม 2558) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียนแล้วพบว่า ผู้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวมีพฤติกรรมเคยกระทำความผิดมาก่อน และเคยถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถมาแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งความผิดครั้งล่าสุดคือมีพฤติกรรมลามกอนาจารและปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร จึงได้พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับรถยนต์โดยสารสาธารณะ และเปรียบเทียบปรับฐานกระทำการอันควรขายหน้า
ทั้งนี้สำหรับคนขับรถแท็กซี่รายนี้ ถือเป็นรายที่ 2 ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ โดยกรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการพักใช้ใบอนุญาตขับรถแท็กซี่ไปแล้วกว่า 93 ราย สำหรับผู้โดยสารที่พบปัญหารถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางแอพพลิเคชั่น "ร้องเรียนรถสาธารณะ"
สั่งฟันแท็กซี่โรคจิตเพิกถอนใบอนุญาต หลังโชว์ช่วยตัวเองบนรถ
By Unknown
yengo 1
โดยในขณะที่รถบรรทุกปลา ได้วิ่งบนถนนอยู่นั้น ระหว่างทางนั้น ได้เกิดเหตุ ไม่คาดคิด ที่ทำให้ปลาจำนวนมากที่ถูกบรรทุกมานั้น เกิดรั่วไหลเกลื่อนพื้นถนน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการเร่งเก็บปลาจำนวนมากที่กีดขวางการจราจร โดยเจ้าหน้าที่ทำการฉีดน้ำให้ปลาไหลไปกองรวมกันและโกยขึ้นรถในที่สุด จากเหตุดังกล่าว คาดว่าสาเหตุมาจากการที่ รถบรรทุกปิดท้ายรถไม่สนิท ส่งผลให้ปลาจำนวน 6.8 ตัน หล่นสู่ถนน และเป็นเหตุให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเก็บปลาจำนวน 6.8 ตัน ราวกว่า 2 ชั่วโมง ( ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ )
yengo 1
โดยในขณะที่รถบรรทุกปลา ได้วิ่งบนถนนอยู่นั้น ระหว่างทางนั้น ได้เกิดเหตุ ไม่คาดคิด ที่ทำให้ปลาจำนวนมากที่ถูกบรรทุกมานั้น เกิดรั่วไหลเกลื่อนพื้นถนน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการเร่งเก็บปลาจำนวนมากที่กีดขวางการจราจร โดยเจ้าหน้าที่ทำการฉีดน้ำให้ปลาไหลไปกองรวมกันและโกยขึ้นรถในที่สุด จากเหตุดังกล่าว คาดว่าสาเหตุมาจากการที่ รถบรรทุกปิดท้ายรถไม่สนิท ส่งผลให้ปลาจำนวน 6.8 ตัน หล่นสู่ถนน และเป็นเหตุให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเก็บปลาจำนวน 6.8 ตัน ราวกว่า 2 ชั่วโมง ( ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ )
yengo 1
อะไรนะ ปลากว่า 6.8 ตัน เกลื่อนเต็มถนนที่จีน สาเหตุเพราะ…
By Unknown
loading...
น่าเวทนา... คนใจร้ายใช้มีดฟันหน้าน้องหมาจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหตุรำคาญที่เห่าเสียงดัง
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2558 ที่เฟซบุ๊ก กู้ภัยไทยแลนด์ ได้มีการเผยแพร่ภาพของสุนัขตัวหนึ่ง ซึ่งมีรอยแผลคล้ายถูกฟันที่หน้าจนเหวอะหวะ พร้อมเผยว่า ถูกคนใจร้ายใช้มีดฟันปาก เนื่องจากรำคาญเสียงสุนัขเห่า สร้างความสลดใจให้แก่ผู้พบเห็นภาพดังกล่าวเป็นอย่างมาก
loading...
สำหรับข้อความจากเพจ กู้ภัยไทยแลนด์ มีดังนี้ "ภาพจากคลีนิค !! คนบาปใช้มีดฟันปากสุนัข เหตุเพราะเห่าจนรำคาญ เบื้องต้นตามกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองการทารุณกรรมสัตว์ จำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท ไม่รอลงอาญา ฝากประชาสัมพันธ์โดยทั่วกัน"
ทั้งนี้ได้มีชาวเน็ตร่วมแสดงความคิดเห็นกับภาพดังกล่าว และแชร์ต่อกันไปเป็นจำนวนมาก
loading...
ที่มา : http://www.kapook.com/น่าสงสาร... คนใจร้ายใช้มีดฟันหน้าน้องหมา เหตุรำคาญเห่าเสียงดัง
By Unknown
yengo 1
น้องนิ่ม เด็กหญิงวัย 10 ขวบ ชาวชัยภูมิ ที่ป่วยเป็นโรคเด็กดักแด้ มีความสามารถในเรื่องของการนำงานศิลปะบำบัดตัวเอง รักษาโรคที่ทนทุกข์ทรมานตั้งแต่เกิด แถมมีผลการเรียนดี เป็นที่ยอมรับของเพื่อน ๆ
วันนี้ (20 มีนาคม 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่ท้อแท้ เมื่อมีเด็กหญิงรายหนึ่งที่ศึกษาในระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 ในจังหวัดชัยภูมิ ป่วยเป็นเด็กดักแด้มาตั้งแต่กำเนิด แต่เธอก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขและได้รับการยอมรับจากบุคคลรอบข้าง ด้วยการใช้วิชาศิลปะมาบำบัดตัวเองเพื่อลืมความเจ็บปวดของตัวเอง อีกทั้งยังมีผลการเรียนที่ดี เกรด 4 เกือบทุกวิชา
นอกจากนี้ทางโรงเรียนก็ได้มีการช่วยเหลือเด็กหญิงรายนี้ด้วยการให้อภิสิทธิ์พิเศษเธอไม่ต้องเข้าแถว และจัดโต๊ะให้อยู่ใกล้ ๆ ห้องน้ำ เพื่อจะต้องล้างตัวเสมอ เนื่องจากโรคผิวหนังดักแด้จะไม่สามารถอยู่ได้หากผิวแห้งเกินไป อาจจะทำให้เกิดอาการแสบคันได้ อีกทั้งหลังช่วงเลิกเรียนก็ได้ดูแลน้องสาววัย 4 ขวบ ที่เป็นโรคเดียวกันกับตน
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนของเด็กดักแด้รายนี้ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า น้องคนนี้เป็นเด็กที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น ๆ และสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ กับคนทั่วไปได้ ส่วนการเรียนก็เป็นคนที่มีผลการเรียนที่ดีพอสมควร ได้เกรด 4 เกือบทุกวิชา จนเป็นที่ยอมรับของเพื่อน ๆ ทั่วไป
yengo 1
ที่มา : www.kapook.com
น้องนิ่ม เด็กหญิงวัย 10 ขวบ ชาวชัยภูมิ ที่ป่วยเป็นโรคเด็กดักแด้ มีความสามารถในเรื่องของการนำงานศิลปะบำบัดตัวเอง รักษาโรคที่ทนทุกข์ทรมานตั้งแต่เกิด แถมมีผลการเรียนดี เป็นที่ยอมรับของเพื่อน ๆ
วันนี้ (20 มีนาคม 2558) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้นำเสนอข่าวที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่ท้อแท้ เมื่อมีเด็กหญิงรายหนึ่งที่ศึกษาในระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 ในจังหวัดชัยภูมิ ป่วยเป็นเด็กดักแด้มาตั้งแต่กำเนิด แต่เธอก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขและได้รับการยอมรับจากบุคคลรอบข้าง ด้วยการใช้วิชาศิลปะมาบำบัดตัวเองเพื่อลืมความเจ็บปวดของตัวเอง อีกทั้งยังมีผลการเรียนที่ดี เกรด 4 เกือบทุกวิชา
นอกจากนี้ทางโรงเรียนก็ได้มีการช่วยเหลือเด็กหญิงรายนี้ด้วยการให้อภิสิทธิ์พิเศษเธอไม่ต้องเข้าแถว และจัดโต๊ะให้อยู่ใกล้ ๆ ห้องน้ำ เพื่อจะต้องล้างตัวเสมอ เนื่องจากโรคผิวหนังดักแด้จะไม่สามารถอยู่ได้หากผิวแห้งเกินไป อาจจะทำให้เกิดอาการแสบคันได้ อีกทั้งหลังช่วงเลิกเรียนก็ได้ดูแลน้องสาววัย 4 ขวบ ที่เป็นโรคเดียวกันกับตน
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนของเด็กดักแด้รายนี้ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า น้องคนนี้เป็นเด็กที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น ๆ และสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ กับคนทั่วไปได้ ส่วนการเรียนก็เป็นคนที่มีผลการเรียนที่ดีพอสมควร ได้เกรด 4 เกือบทุกวิชา จนเป็นที่ยอมรับของเพื่อน ๆ ทั่วไป
yengo 1
พบเด็ก ป.4 ป่วยเป็นเด็กดักแด้ แต่เรียนดี เกรด 4 ตลอด
By Unknown
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 3 มี.ค.58 พ.ต.ท.ชาติชาย นาคปักษี สารวัตรเวรสอบสวนสภ.เมืองกระบี่ เข้าตรวจสอบเหตุรถชนกันหลายคัน เหตุเกิดที่ ม.2 ต.อ่าวนาง หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพบที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามแมคโดนัลด์ สาขาอ่าวนาง มีรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน กทม. ชนอยู่กับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีเทา ที่จอดอยู่ริมทาง ส่วนผู้บาดเจ็บมี 2 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำไปสอบสวนที่ สภ.เมืองกระบี่ นอกจากนั้นพบว่า ตั้งแต่มัสยิดอ่าวนางถึงที่เกิดเหตุ มีรถที่ถูกชนกระจัดกระจายเป็นรถเก๋ง 1 คัน ยี่ห้อฮุนได สีเขียว ทะเบียน กง 1332 ภูเก็ตถูกชนท้าย และรถยนต์กระบะอีก 2 คัน รถจักรยานยนต์อีก 7 คัน
ส่วนผู้บาดเจ็บซึ่งขับรถปาเจโร่ เป็นชายวัยรุ่นอายุ 19 ปี ชาวต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ ได้รับบาดเจ็บที่ขา อีกรายเป็นนักท่องเที่ยวที่ขับรถเก๋งฮุนได คือนาย vitalii slobodchikov อายุ 37 ปี สัญชาติเยอรมัน สภาพบาดเจ็บที่ขาขวา และแขน สอบสวนทราบว่า ชายวัยรุ่นดังกล่าว ได้ขับรถปาเจโร่ไปชนท้ายรถฮุนไดที่มีชาวเยอรมันเป็นคนขับ และพยายามขับหนี ทำให้นาย vitalii slobodchikov กระโดดเกาะข้างรถด้านคนขับ โดยชายวัยรุ่นได้พยายามสลัดให้หล่นจากรถ ทำให้รถไปชนกับรถที่จอดอยู่ข้างถนน ในย่านท่องเที่ยวจนพังเสียหาย และถูกตำรวจป้อมยามอ่าวนางควบคุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการต่อไป.
ที่มา; http://www.thairath.co.th/content/484734
หนุ่มเยอรมัน ใจเด็ดเกาะรถโจ๋ 19 ซิ่งชนแหลกสุดท้ายเสร็จ ตร.
By Unknown
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน คุมตัวนายไป่ ภู่เพ็ชร อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้ขวานฟัน นายศราวุฒิ ภู่เพ็ชร อายุ 30 ปี คนงานโรงอิฐ ซึ่งเป็นลูกชาย เสียชีวิตริมถนนเลียบคันคลองชลประทานหน้าโรงอิฐนางช้าง หมู่ 2 ต.พระขาว อ.บางบาล ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางกลุ่มคนงานและเพื่อนบ้านกว่า 100 คน มามุงดูการทำแผน
โดยนายไปล่ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าลูกชายด้วยตนเอง เนื่องจากทนพฤติกรรมของลูกชายที่ติดยาบ้าไม่ไหว เมื่อเมายาบ้าหรือเมาสุราจะอาละวาดและทำร้ายร่างกายตนเองเป็นประจำ ซึ่งในคืนเกิดเหตุนั้นลูกชายเมาอย่างมาก เมื่อมาถึงบ้านได้กระชากตนเองออกมาจากที่นอน ก่อนที่จะท้าต่อยกัน แต่ตนเองพยายามไม่สนใจ แต่ถูกผู้ตายบังคับขึ้นซ้อนท้ายรถ จยย. ออกมาจากบ้าน ตนทนไม่ไหวจึงได้หยิบเอาขวานที่อยู่ในบ้านติดตัวมาด้วย พอมาถึงจุดเกิดเหตุผู้ตายจอดรถเพื่อจะทำร้ายตนเองอีก ตนจึงตัดสินใจเอาขวานที่พกมาไว้ด้านหลัง ฟันไปที่ศีรษะลูกชายหลายครั้งจนล้มลง แล้วฟันซ้ำไปอีกจนนับไม่ถ้วนด้วยความโกรธแค้น ก่อนที่จะหลบหนีกลับบ้านพักไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วย้อนกลับมาดูในที่เกิดเหตุ
"ทนไม่ไหวแล้วกับลูกชาย เวลาไม่ดื่มเหล้าก็ดีมากช่วยครอบครัวทำงาน แต่พอเมามากลับกลายเป็นอีกคน ท้าตีท้าต่อยไปทั่ว ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อของตัวเอง จึงสุดทนต้องฆ่าลูกก่อนที่จะถูกลูกฆ่า" นายไปล่ กล่าว
พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวว่า หลังจากการสืบสวนรวบพยานหลักฐานต่างๆ พบนายไปล่ซึ่งเป็นพ่อมีพิรุธ และจากตรวจค้นภายในห้องพักพบคราบเลือดและเสื้อผ้าเปื้อนเลือดซุกซ่อนอยู่ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนอีกครั้ง ก่อนยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ฆ่าลูกชายของตัวเอง คดีนี้นับเป็นอีกคดีหนึ่งที่มาจากพิษภัยของยาเสพติด เมื่อเสพยาเข้าไปแล้วทำให้ไม่มีสติ ทำร้ายร่างกายของผู้เป็นพ่อและคนในครอบครัวได้ จนสุดท้ายพ่อทนไม่ไหวต้องตอบโต้จนฆ่าลูกและต้องตกมาเป็นผู้ต้องหา..
ที่มา http://dailynews.co.th/Content/regional
พ่อสุดทนลูกเมาทำร้ายคว้าขวานจามเละ
By Unknown
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
