ต้องขอเกรินก่อนะคะ ว่าดิชั้นลดไป 30 กิโลใน 2 เดือน และลดอีก 10 กิโลใน 1 เดือนสุดท้ายคะ (ปล ดิชั้นเป็นเกย์นะคะ อิอิ ตอนนั้นหนัก 108 กิโลกรัม สูง 180 cm คะ)
สำหรับสูตรก็คือ ให้ซื้อแตงโมตุนไว้เยอะๆๆคะ ซื้อก่อนเข้าทำงานหลายๆถุงเลยคะ แล้วก็เอาไปแช่ช่องแช่แข็ง(เป็นไอติมอร่อยๆๆคะ)หรือตุ็เย็นไว้คะ
ก็ให้ทานแตงโมเย็นๆกับน้ำเปล่าเยอะๆๆนี้แหละคะ หิวเมือไรก็คว้าแตงโมเข้าปากคะ ที่ให้ทานแตงโมเพราะว่า แตงโมมีรสหวาน เพราะมีน้ำตาลโมเลกุลเล็กคะ ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว แล้วในการทำงานนั้น สมองต้องการน้ำตาลด้วยคะ (สมองคนเราต้องการน้ำตาลวันละ 120g นะคะ ฉะนั้นการอด crab เลยจะแย่ต่อสมองมากๆๆ รวมถึงในสมองก็มีน้ำอยู่เป็นส่วนประกอบหลัก ฉะนั้นทานน้ำเยอะๆๆคะ แถมการทานน้ำเย็น จะช่วงเพิ่มแมตตาบอริซึม หรือ การเผาพลาญ เพราะร่างกายต้องพยายามรักษาอุณหภูมิของร่างกายไว้ที่ 37 องศานะคะ ก็จะนำพวกไขมันส่วนเกินออกมาเผา ให้ร่างกายเกิดความร้อน เพื่อคงอุณหภูมิ นะคะ แถมกินน้ำเยอะ ต้องเดินไปฉี่บ่อย เวลาเดิน ก็ได้ออกกำลังกายด้วยนะคะ 5555 ห้ามอั้นปัสสาวะ นะคะ จะเป็นกระเพราะปัสสาวะ อักเสบได้คะ อันตรายมากๆๆๆ เดินบ่อยหน่อยก็ถือว่าออกกำลังกายนะคะ อิอิอิ)
ถ้าเบื่อแตงโม ให้ทาน ชมพู่ แทนได้คะ แต่ห้ามทานผลไม้เนื้อแน่นๆเป็นแป้ง พวก มะม่วง ฝรั่ง เพราะมันจะให้พลังงานสูงกว่าคะ เพราะสูตรของดิชั้น คือจะให้กินแตงโมทั้งวันคะ หิวเมื่อไร ก็แตงโมเมื่อนั้น
จากที่หามา เค้าบอกว่า แตงโม 100g ให้พลังงานแค่ 8 Kcal เองคะ ฉะนั้น กินแตงโม 1 กิโล เพิ่งได้พลังงานแค่ 80 Kcal เอง ไม่อ้วนแน่นอนคะ (ผุ้หญิงใช้พลังงานวันละประมาณ 1500 Kcal) ฉะนั้น ถ้าจะลดความอ้วน ก็ไม่ควรจะกินเกิน 1000 kcal นะคะ น้ำหนักที่หายไป 1 kg เท่ากับ 7700 Kcal นะคะ อันนี้หามาจาก net คะ
ถ้าคนน้ำหนักเยอะก็จะยิ่ง ใช้พลังงานเยอะขึ้นต่อวันคะ ก็จะทำให้ ช่วงแรกๆๆ ลดลงเร็วมาก แต่หลังๆๆจะลดช้าลง ก็ไม่ต้องเครียดว่าทำไมหลังๆๆไม่ลดนะคะ มันต้องใช้เวลานิดนึง
ไข่ต้ม 1 ฟองให้พลังงาน 75 Kcal โดยประมาณคะ
แต่ถ้าไข่ดาว 1 ฟอง ก็ 150 Kcal
ถ้าไข่เจียว 1 ฟองก็ 250 Kcal คะ
เห็นไหมคะ น้ำมันนี้มันน่ากลัวมากคะ
จะทานไข่ต้มกับสลัดก็ได้นะคะ แต่น้ำสลัดขอแบบญี่ปุ่นนะคะ อิอิอิ แล้วก็ไม่ใส่ ขนมปังอบนะคะ
ถ้าตลอดทั้งวันนี้มีตอนไหนหิวๆๆ ก็รีบกินแตงโมนะคะ ก่อนจะเผลอไปกินอย่างอื่น แล้วมานึกได้ที่หลัง
**** ห้ามกินกาแฟคะ เพราะให้พลังงานสูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากพวก นม น้ำตาล นมค้นหวาน ครีม ไรพวกนนี้อะคะ เห็นเค้าว่า เท่ากับข้าว 2 มื้อเลยคะ ****
**** เครื่องดื่มตลอดการลดน้ำหนักต้องเป็นน้ำเปล่า หรือ pepsi max นะคะ ****
ควรมีช่วง promotion ให้ตัวเองด้วยคะ เช่น ลดครบ 10 กิโลกรัม รับไปเลย บูลเบอรี่ชีสเค้ก 1 ชิ้น อะไรแบบนี้ ไม่งั้น ตายแน่คะ มันต้องมีพักกันบ้าง เช่น 7 วัน พัก 1 มื้อ กินอะไรก็ได้ตามใจเรา อะไรแบบนี้อะคะ สู้ๆๆนะคะ อิอิอิ
สำหรับสูตรก็คือ ให้ซื้อแตงโมตุนไว้เยอะๆๆคะ ซื้อก่อนเข้าทำงานหลายๆถุงเลยคะ แล้วก็เอาไปแช่ช่องแช่แข็ง(เป็นไอติมอร่อยๆๆคะ)หรือตุ็เย็นไว้คะ
มื้อเช้า
ก็ให้ทานแตงโมเย็นๆกับน้ำเปล่าเยอะๆๆนี้แหละคะ หิวเมือไรก็คว้าแตงโมเข้าปากคะ ที่ให้ทานแตงโมเพราะว่า แตงโมมีรสหวาน เพราะมีน้ำตาลโมเลกุลเล็กคะ ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว แล้วในการทำงานนั้น สมองต้องการน้ำตาลด้วยคะ (สมองคนเราต้องการน้ำตาลวันละ 120g นะคะ ฉะนั้นการอด crab เลยจะแย่ต่อสมองมากๆๆ รวมถึงในสมองก็มีน้ำอยู่เป็นส่วนประกอบหลัก ฉะนั้นทานน้ำเยอะๆๆคะ แถมการทานน้ำเย็น จะช่วงเพิ่มแมตตาบอริซึม หรือ การเผาพลาญ เพราะร่างกายต้องพยายามรักษาอุณหภูมิของร่างกายไว้ที่ 37 องศานะคะ ก็จะนำพวกไขมันส่วนเกินออกมาเผา ให้ร่างกายเกิดความร้อน เพื่อคงอุณหภูมิ นะคะ แถมกินน้ำเยอะ ต้องเดินไปฉี่บ่อย เวลาเดิน ก็ได้ออกกำลังกายด้วยนะคะ 5555 ห้ามอั้นปัสสาวะ นะคะ จะเป็นกระเพราะปัสสาวะ อักเสบได้คะ อันตรายมากๆๆๆ เดินบ่อยหน่อยก็ถือว่าออกกำลังกายนะคะ อิอิอิ)
ถ้าเบื่อแตงโม ให้ทาน ชมพู่ แทนได้คะ แต่ห้ามทานผลไม้เนื้อแน่นๆเป็นแป้ง พวก มะม่วง ฝรั่ง เพราะมันจะให้พลังงานสูงกว่าคะ เพราะสูตรของดิชั้น คือจะให้กินแตงโมทั้งวันคะ หิวเมื่อไร ก็แตงโมเมื่อนั้น
จากที่หามา เค้าบอกว่า แตงโม 100g ให้พลังงานแค่ 8 Kcal เองคะ ฉะนั้น กินแตงโม 1 กิโล เพิ่งได้พลังงานแค่ 80 Kcal เอง ไม่อ้วนแน่นอนคะ (ผุ้หญิงใช้พลังงานวันละประมาณ 1500 Kcal) ฉะนั้น ถ้าจะลดความอ้วน ก็ไม่ควรจะกินเกิน 1000 kcal นะคะ น้ำหนักที่หายไป 1 kg เท่ากับ 7700 Kcal นะคะ อันนี้หามาจาก net คะ
ถ้าคนน้ำหนักเยอะก็จะยิ่ง ใช้พลังงานเยอะขึ้นต่อวันคะ ก็จะทำให้ ช่วงแรกๆๆ ลดลงเร็วมาก แต่หลังๆๆจะลดช้าลง ก็ไม่ต้องเครียดว่าทำไมหลังๆๆไม่ลดนะคะ มันต้องใช้เวลานิดนึง
มื้อกลางวัน
มื้อกลางวัน ให้ทาน เกาเหลา ไม่ใส่หอมเจียว นะคะ หรือถ้ามีร้านส้มตำ ก็ ส้มตำเลยคะ ไก่ย่างเลยคะ หรือสเต็กปลา ก็ได้ แต่อย่าทาน คาร์โบไฮเดรตคะ สูตรนี้จะรับ คาร์โบไฮเดรต จาก แตงโม เท่านั้นนะคะ ห้ามทานของทอดด้วยคะ เพราะน้ำมันนี้มันอันตรายมากกกกกกกกกกกกก แล้วก็ห้ามทานหนังสัตว์บ่ายๆ
แอบหิวตอนบ่ายกันใช่ไหมคะ เดินไปตู้เย้นเลยค้า แตงโม เจ้าเก่า อิอิอิเย็น
ตอนเย็นนี้กลับมาบ้านให้กินไข่ต้มคะ2-3ฟอง กินไข่แดงได้คะ ไม่ต้องเอาออกนะคะ เพราะไขมันในไข่แดงเป็นไขมันธรรมชาติ ร่างกายจะนำไปใช้คะ เช่นการสร้างวิตามิน D คะ แถมเคยอ่านเจอว่า ในไข่แดงมีสารลดไขมันในหลอดเลือดด้วยคะไข่ต้ม 1 ฟองให้พลังงาน 75 Kcal โดยประมาณคะ
แต่ถ้าไข่ดาว 1 ฟอง ก็ 150 Kcal
ถ้าไข่เจียว 1 ฟองก็ 250 Kcal คะ
เห็นไหมคะ น้ำมันนี้มันน่ากลัวมากคะ
จะทานไข่ต้มกับสลัดก็ได้นะคะ แต่น้ำสลัดขอแบบญี่ปุ่นนะคะ อิอิอิ แล้วก็ไม่ใส่ ขนมปังอบนะคะ
ถ้าตลอดทั้งวันนี้มีตอนไหนหิวๆๆ ก็รีบกินแตงโมนะคะ ก่อนจะเผลอไปกินอย่างอื่น แล้วมานึกได้ที่หลัง
**** ห้ามกินกาแฟคะ เพราะให้พลังงานสูงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากพวก นม น้ำตาล นมค้นหวาน ครีม ไรพวกนนี้อะคะ เห็นเค้าว่า เท่ากับข้าว 2 มื้อเลยคะ ****
**** เครื่องดื่มตลอดการลดน้ำหนักต้องเป็นน้ำเปล่า หรือ pepsi max นะคะ ****
ควรมีช่วง promotion ให้ตัวเองด้วยคะ เช่น ลดครบ 10 กิโลกรัม รับไปเลย บูลเบอรี่ชีสเค้ก 1 ชิ้น อะไรแบบนี้ ไม่งั้น ตายแน่คะ มันต้องมีพักกันบ้าง เช่น 7 วัน พัก 1 มื้อ กินอะไรก็ได้ตามใจเรา อะไรแบบนี้อะคะ สู้ๆๆนะคะ อิอิอิ
สูตรลดน้ำหนักเร่งด่วน 40 กิโลใน 3 เดือน ไม่ต้องอดอาหาร(ไม่ต้องใช้ยา)
By Unknown
loading...
อาการมีเสมหะในลำคอสร้างความ รำคาญและทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวก ใครมีเสมหะข้นเหนียวอยู่ในลำคอแบบนี้คงไม่ค่อยแฮปปี้กันเท่าไร งั้นมากำจัดเสมหะกันดีกว่าและสำหรับเคสที่ขับเสมหะไม่ออก นอกเหนือจากการทานยาละลายเสมหะแล้ว อาจลองวิธีเหล่านี้เป็นตัวช่วยดู
1. ดื่มน้ำเยอะขึ้น ในกรณีที่รู้ว่ามีเสมหะในลำคอเพราะอาการป่วย เคสนี้อาจจะลองบรรเทาด้วยการดื่มน้ำให้เยอะขึ้นก่อน โดยเลือกดื่มน้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่น เพื่อให้น้ำช่วยละลายเสมหะ พร้อมทั้งกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันร่างกายไปด้วย
2. ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำอุ่น น้ำซุป หรือเครื่องดื่มอุ่น ๆ ชนิดอื่นก็สามารถดื่มเพื่อขจัดเสมหะได้ เพราะน้ำอุณหภูมิสูงกว่าปกติจะช่วยละลายเสมหะในลำคอได้ไม่มากก็น้อย
3. กินอาหารรสชาติเผ็ดร้อน ถ้าไม่มีปัญหากับรสชาติเผ็ด ให้ลองกินอาหารรสชาติจัดจ้าน อย่างต้มยำ แกงเลียง ยำ หรือน้ำพริกก็ได้ สมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบของอาหารเหล่านี้ รวมทั้งน้ำซุปร้อน ๆ จะช่วยขับเสมหะและช่วยเปิดทางให้ระบบหายใจคล่องตัวมากขึ้น ทว่าสำหรับคนที่กินเผ็ดไม่ค่อยเก่ง แนะนำเป็นต้มจืดร้อน ๆ สักถ้วยก็ได้ค่ะ
4. กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ ผสมเกลือ 1/4 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 แก้วใหญ่ จากนั้นนำมากลั้วคอ โดยให้เงยหน้าขึ้นระหว่างที่กลั้วคอด้วย เกลือจะช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบในลำคอ รวมทั้งน้ำอุ่นก็จะช่วยละลายเสมหะไปด้วยในตัว
5. กลั้วคอด้วยน้ำโซดาแช่เย็น หากไม่สะดวกจะใช้น้ำเกลือกลั้วคอ จะใช้โซดาเปล่าแช่เย็นแทนก็ได้ ความซ่าของโซดาจะทำให้เสมหะลดน้อยลง โดยเฉพาะช่วยลดการกระแอมไอในคนที่รู้สึกว่ามีเสมหะค้างอยู่ในลำคอตลอดเวลา
6. ไอให้เสมหะออก กรณีนี้แนะนำสำหรับผู้ที่มีเสมหะในลำคอเท่านั้นนะคะ เพราะหากมีเสมหะค้างอยู่ในปอดจะกระแอมไอแบบนี้ไม่ได้ และการไอเพื่อกำจัดเสมหะก็ควรต้องไออย่างมีประสิทธิภาพ คือ สูดลมหายใจเข้าทางจมูกให้มากที่สุด เพื่อให้ลมหายใจเข้าไปอยู่หลังเสมหะ สังเกตได้จากทรวงอกจะขยายโดยที่ไหล่ไม่ยก และคอไม่ยืด กลั้นหายใจไว้สักครู่แล้วไอให้แรงพอสมควร ซึ่งต้องคำนึงถึงว่าลมที่อยู่หลังเสมหะจะกระแทกเสมหะให้ขึ้นมาตามหลอดลม จากนั้นก็จัดการบ้วนเสมหะทิ้งให้เรียบร้อย
7. หายใจเข้า-ออกลึก ๆ พยายามหายใจเข้า-ออกลึก ๆ ติดต่อกันเซตละ 5-7 ลมหายใจ วิธีนี้จะช่วยให้ถุงลมขยายใหญ่และฟีบสลับกันโดยไม่กระทบต่อการเปลี่ยนแปลง ของระดับก๊าซออกซิเจนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่จะช่วยให้ถุงลมที่มีเสมหะเกาะอยู่เคลื่อนตัวจากการพองและแฟบของถุงลม ซึ่งอาจทำให้เสมหะหลุดออกจากถุงลม และง่ายต่อการระบายสู่หลอดลมใหญ่
8. กำจัดเสมหะด้วยสมุนไพร แค่สมุนไพรจากอาหารรสจัดจ้านก็สามารถช่วยละลายเสมหะให้เราได้บ้างแล้ว ซึ่งก็แน่นอนว่าหากต้องการใช้สมุนไพรกำจัดเสมหะลเพียว ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก โดยสามารถใช้ทั้งมะนาว มะแว้ง มะขามป้อม และสมุนไพรกำจัดเสมหะตามนี้เลย
- สมุนไพรแก้ไอ ขจัดเสมหะ ได้รู้วิธีกำจัดเสมหะที่ทำตามไม่ยากเย็นแบบนี้แล้วก็อย่าปล่อยให้เสมหะลอย นวลกันอีกเลย จัดการเคลียร์ทางเดินหายใจให้คล่องตัวโดยเร็วกันดีกว่า
8 วิธีกำจัดเสมหะ เคลียร์ลำคอให้โล่ง หายใจสะดวกขึ้น
By Unknown
loading...
แทบช็อก!!!สาวแหก..กลางธนาคาร เพราะอากาศร้อนจัด แถมใส่ กกน. แบบนี้ ทิ่มตาเต็มๆ กล้ามาก!!
บอกเลยว่าทำเอาชาวเน็ตถึงกับสะพรึง !!!เมื่อเจอสาวกลางธนาคาร คนนี้ ที่มีคนนำรูปเธอมาโพสต์ ว่าเป็นเพราะอากาศร้อนจัดทำคลั่ง!!!
เลยทำให้ภาพของ สาวแหกกลางธนาคาร คนนี้ ถูกแชร์ไปทั่วโลกโซเซียล บอกเลยว่ากล้ามากอะไมาก...แถม กกน.ที่เธอใส่ เห็นแล้วยังพูดเลยว่าโคตรแซ่บ!!!ทำเอาชาวเน็ตแห่ขอเข้ามา เปิดวาร์ป กันยกใหญ่พูดเลยว่าเด็ดมว๊ากกก
loading...
ลยทำให้ภาพของ สาวแหกกลางธนาคาร คนนี้ ถูกแชร์ไปทั่วโลกแล้ว
By Unknown
loading...
1. Taking picture of baby with placenta is a post birth ritual according to Maori tradition.
2. Mom Charlotte River with her second baby boy.
3. The heart-warming picture.
4. The picture has a story.
The baby's parents followed a practice called 'lotus birth' in which the placenta is left attached to a baby until it dries up and gets detached naturally. via
5. The heart warming picture.
6. Photographer mom shares this adorable picture of her 4th baby.
7. The picture was immediately taken post birth.
loading...
8. Waterbirth.
9. Cuteness overload.
10. The idea of capturing such heart touching pictures of new born baby is truly appreciable
Share the story with your friends and family!
ที่มา wittyfeed
10 Powerful Photos Of Newborn Baby With Placenta
By Unknown
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)